วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

วันนี้สอนเรื่อง ผลแห่งกรรม และผลแห่งบุญ

ค่ายศิลปะรุ่นที่สอง พิพิธฯจตุจักร วันอังคารที่สิบแปดมีนาห้าสอง 

หัวข้อตลาดน้ำ

วันนี้สอน เรื่องผลแห่งกรรม และผลแห่งบุญ








สอนนักเรียนศิลปะ เรื่องผลจากการทำกรรม และผลบุญ ที่ประกอบความดี
เกรงว่า เด็กๆจะไม่มี หิริและโอตตัปปะ (หิ - หริ - โอด - ตับ - ปะ ) คือ ควาละอาย และเกรงกลัวต่อบาป
คำว่า หิริ คือ ความละอายใจ อายมิใช่อายอย่างธรรมดา ที่หนุ่มสาวอายกัน มันอายซึ้งเข้าถึงใจจริงๆ ไม่ใช่อายผิวเผินภายนอก หนุ่มสาวมักอายรูปร่างภายนอก เราคิดจะทำสิ่งใดที่ชั่ว มันละอายขึ้นมาในใจ เพียงแต่คิดเท่านั้น คนอื่นยังไม่เห็นเลยมันเกิดความละอายขึ้นมาแล้ว

ความละอายนี่แหละเป็นต้นเหตุให้ทำความดี ความดีทั้งหมดเกิดจากความละอายนี้ทั้งนั้น ความไม่ดีเกิดจากความไม่ละอายนั่นเอง ศีล ๕ ข้อมีความละอายเป็นเบื้องต้น เป็นสมุฏฐาน หากว่ามีความละอายในใจแล้วไม่กล้าทำ ศีลข้อนั้นก็งดเว้นได้หมด

หิริ โอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัว เมื่อรู้สึกมีความละอายในใจแล้วเกิดความกลัว กลัวความชั่ว กลัวเขาจะรู้ จะเห็น กลัวจะอับอายขายขี้หน้า กลัวผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ครูอาจารย์

ถ้ามีหิริโอตตัปปะแล้ว ไม่มีอิจฉาริษยาเบียดเบียนซึ่งกันและกันมันก็เป็นสุขเท่านั้น หากคิดผิดประทุษร้ายเกิดความละอายและกลัวขึ้นมา นั่นธรรมเตือนขึ้นมาแล้ว เลยไม่กล้าทำความชั่ว ครั้นทำลงไปก็เป็นเหตุให้เดือดร้อนวุ่นวาย ตนเองเดือดร้อนเพราะทำชั่ว คิดชั่ว แล้วก็เป็นเหตุให้คนอื่นเดือดร้อนอีกด้วย

ผู้ประพฤติธรรมดีแล้วย่อมนำความสุขมาให้ มันก็สวมหัวใจของเรามาแต่เบื้องต้น จะสุขที่ไหน สุขแต่เบื้องต้นที่เราประพฤติดี ประพฤติชอบ มันไม่เดือดร้อนวุ่นวาย คนอื่นก็สุข

เวลาสอนเด็กๆไม่ได้สอนแบบนี้นะครับ เล่าเป็นนิทานให้เด็กๆฟังไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า คิดเสมอว่า เมื่อนานไปเด็กๆโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เรื่องที่เล่าให้ฟังคงผุด ขึ้นมาในใจบ้าง...



ขอบพระคุณมากครับ
=ครูแหลม=


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น